“สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จับ “มิเกล อัลมิรอน” จอมทัฟอร์มเด่น จรดปากกาต่อสัญญาใหม่จนถึงปี 2026 เรียบร้อย พร้อมระบุชัดขอฉลองสัญญาใหม่ด้วยการคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ
สโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมมหาเศรษฐีแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า ได้บรรลุข้อตกลงต่อสัญญาใหม่กับ มิเกล อัลมิรอน กองกลางคนสำคัญ ออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2026 เป็นที่เรียบร้อย
🇵🇾 WOR MIGGY 🇵🇾
— Newcastle United FC (@NUFC) February 24, 2023
🤝 We are delighted to announce that Miguel Almirón has signed a new three-and-a-half year deal!
โดย ดาวเตะทีมชาติปารากวัย วัย 29 ปี ถือเป็นกำลังหลักที่ช่วยทัพ “สาลิกาดง” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ด้วยการโชว์ฟอร์มสุดยอดซัดไป 10 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงแข่ง 29 นัดรวมทุกรายการ
ทั้งนี้ “อัลมิรอน” ที่เพิ่งลงเล่นให้ “นิวคาสเซิ่ล” ไปแล้ว 150 นัดในทุกรายการ นับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอตแลนต้า ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมกราคม ปี 2019 ได้ออกมาเปิดใจหลังต่อสัญญาว่า
“ผมมีความสุขมากที่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ นิวคาสเซิ่ล ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้านกับ นิวคาสเซิ่ล ตั้งแต่แรก ผมรู้สึกได้ถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น และรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว”
“ดังนั้นผมจึงมีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นี่ และผมจะทุ่มเททุกอย่างในสนามต่อไปเพื่อขอบคุณชาว นิวคาสเซิ่ล ความจริงก็คือผมทำงานหนักมากตั้งแต่มาที่นี่เพื่อพัฒนาระดับของตัวเองและเพื่อไปยังจุดที่ผมอยู่ในขณะนี้ ผมขอขอบคุณสตาฟฟ์โค้ช และเพื่อนร่วมทีมของผมด้วยที่ช่วยผมมากในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา”
“ผมคิดว่านี่เป็นรางวัลสำหรับการทำงานหนักและผมก็มีความสุขมาก ในวันอาทิตย์นี้เรามีเกมที่สำคัญมากๆ และแม้ว่าสัญญาฉบับใหม่จะทำให้ผมมีความสุขจริงๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราจะได้ฉลองสัญญาฉบับนี้ด้วยชัยชนะในวันอาทิตย์”
Part of the family. ❤️🇵🇾 pic.twitter.com/Cji8vLf6GY
— Newcastle United FC (@NUFC) February 24, 2023
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน “นิวคาสเซิ่ล” รั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 41 แต้ม จากการลงแข่ง 23 นัด ตาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เล่นมากกว่า 1 นัด แค่เพียงแต้มเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ทัพ “สาลิกาดง” ยังมีโปรแกรมลงเล่นนัดต่อไปด้วยการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ.นี้
ขอบคุณรูปภาพจาก Newcastle United FC